กระดานถาม-ตอบ (Q&A)
 
ขอเชิญร่วมตอบคำถามครับ
ประโยชน์ของแครอท—และวิธีกินให้ได้คุณค่าสูงสุด
โดย :  รอบรู้ไทย
เมื่อ : 2025-12-24 10:44:25
ประโยชน์ของแครอท—และวิธีกินให้ได้คุณค่าสูงสุด
แครอทมีชื่อเสียงในฐานะ "ซูเปอร์ฟู้ด" มาอย่างยาวนาน และวิทยาศาสตร์ก็ยืนยันแล้วว่าเป็นเรื่องจริง แต่เรามักจะมองข้ามผักหัวพื้นบ้านชนิดนี้ไปเวลาเลือกซื้อของเพื่อสุขภาพ อาจเป็นเพราะเราคุ้นเคยกับมันมากเกินไปจนผักที่ดูทันสมัยกว่าอย่างคะน้าเคล (Kale) หรืออะโวคาโดมักจะแย่งความสนใจไปหมด

ความจริงแล้วแครอทคู่ควรกับการได้รับความสนใจมากกว่านั้น และนี่คือเหตุผลว่าทำไมมันถึงเป็นสุดยอดอาหารที่ควรมีติดครัวไว้เสมอ

สารอาหารอัดแน่นที่ช่วยดูแลร่างกาย
แครอทเต็มไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยสนับสนุนระบบภูมิคุ้มกัน รวมถึงสุขภาพของหัวใจ ไต และตับ แครอทเป็นหนึ่งในแหล่งเบต้าแคโรทีนที่เข้มข้นที่สุด ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอในร่างกาย ช่วยทั้งเรื่องผิวพรรณและสายตา แค่แครอทหั่นหนึ่งถ้วยก็ให้วิตามินเอเกินกว่าปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวันแล้ว นอกจากนี้ยังมีไฟเบอร์ วิตามินเค โพแทสเซียม และสารอาหารที่ช่วยบำรุงดวงตาอย่างลูทีนและซีแซนทีนด้วย

เรื่องจริงเกี่ยวกับแครอทและสายตา
ความเชื่อที่ว่าแครอทช่วยเรื่องการมองเห็นนั้นเป็นเรื่องจริง แต่ต้องเข้าใจให้ถูกต้อง แครอทช่วยให้เรามองเห็นได้ดีขึ้นในที่มืด และช่วยป้องกันปัญหาสายตาในระยะยาว เช่น การเกิดต้อกระจกและจอประสาทตาเสื่อมซึ่งอาจนำไปสู่การตาบอดได้ สารลูทีนในแครอทยังช่วยเพิ่มความหนาแน่นของเม็ดสีในจอตา ซึ่งเป็นเกราะป้องกันการเสื่อมสภาพตามวัย

อย่างไรก็ตาม แครอทไม่ได้ทำให้เรามีสายตาเหนือมนุษย์เหมือนในหนัง แต่มันคือ "เครื่องมือรักษา" สุขภาพตาที่ดีเยี่ยมที่สุดอย่างหนึ่ง

สีที่ต่างกัน... ให้ประโยชน์ที่ต่างไป
เดี๋ยวนี้แครอทไม่ได้มีแค่สีส้ม แต่ยังมีเฉดสีอื่นๆ ที่ให้คุณค่าทางสารอาหารแตกต่างกันไป:

สีม่วง: มีสารแอนโทไซยานินสูง ช่วยเรื่องสุขภาพลำไส้ การทำงานของสมอง และหัวใจ

สีเหลือง: มีลูทีนสูง โดดเด่นเรื่องการบำรุงสมองและดวงตา

สีแดง: รวยด้วยไลโคปีน ซึ่งเชื่อมโยงกับการลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมอง

กินสดหรือปรุงสุก แบบไหนดีกว่ากัน?
แครอทมีประโยชน์ทั้งแบบกินดิบและปรุงสุก แต่การปรุงสุกมีข้อดีที่น่าประหลาดใจคือ ความร้อนจะช่วยทำลายผนังเซลล์ของแครอท ทำให้ร่างกายดูดซึมเบต้าแคโรทีนได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ เนื่องจากเบต้าแคโรทีนละลายได้ดีในไขมัน การปรุงแครอทด้วย ไขมันดี เช่น น้ำมันมะกอก จะยิ่งช่วยให้ร่างกายนำสารอาหารไปใช้ได้ดียิ่งขึ้น ส่วนแครอทดิบนั้นยังคงให้ไฟเบอร์ที่ดีและความสดชื่น ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือการกินสลับกันไปตามความชอบ

ไอเดียอร่อยๆ ในการเติมแครอทลงในมื้ออาหาร
แครอทมีรสหวานตามธรรมชาติ ทำให้เข้ากับอาหารได้ทั้งคาวและหวาน:

ย่างทั้งหัว: ปรุงรสด้วยสมุนไพรและเครื่องเทศ

ซุปแครอท: ปั่นเป็นซุปเนื้อเนียน ปรุงรสด้วยขิงหรืออบเชย

เมนูพื้นฐาน: เริ่มต้นทำซุป สตูว์ หรือไก่อบด้วยการผัดแครอท หอมหัวใหญ่ และขึ้นฉ่าย (Mirepoix) เพื่อเพิ่มความกลมกล่อม

ขนมสุขภาพ: ผสมแครอทขูดลงในมัฟฟิน ขนมปัง หรือเค้กแครอท

ข้อควรระวังเล็กน้อย: เนื่องจากแครอทมีความหวานในตัวอยู่แล้ว เวลาทำอาหารควรลดหรือข้ามการเติมน้ำผึ้ง น้ำเชื่อม หรือน้ำตาล เพื่อให้ได้คุณค่าทางโภชนาการที่แท้จริงโดยไม่ได้รับน้ำตาลเกินความจำเป็น
 
Mail to รอบรู้ไทย
แสดงความคิดเห็น
 
 
แสดงความเห็นต่อคำถามนี้
ชื่อ/Username
อีเมลล์
รูปแบบพิเศษ   ย่อหน้า ตัวหนา ตัวยก ตัวห้อย ตัวหนังสือเรืองแสง ตัวหนังสือมีเงา ตัวเอียง เส้นใต้ สีแดง สีเขียว สีน้ำเงิน สีส้ม สีชมพู สีเทา
Emotions  
แทรกภาพ  
ขนาดภาพ ห้ามเกิน 1 Mb  และ ไฟล์ Flash ขนาดห้ามเกิน
แสดงความเห็น
รหัสส่งข้อมูล :
   
 
ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บบอร์ดไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถ
ระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใด ที่ขัดต่อกฎหมายและ
ศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ office@bangyeetho.go.th เพื่อให้ผู้ควบคุม ระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป